วันอาทิตย์ที่ 7 ตุลาคม พ.ศ. 2555

Planning : Project Management


การบริหารโครงการ (Project Management)

นำเสนอโดย สุวจี วัฒนะวิวัฒน์กุล
รวบรวมโดย อภิชา กิจเชวงกุล
การบริหารโครงการ คือการจัดการและกำกับทรัพยากร (เวลา วัสดุ บุคลากร และค่าใช้จ่าย) เพื่อความสำเร็จของโครงการเป็นไปด้วยความเรียบร้อย บรรลุตามวัตถุประสงค์ของโครงการ   
ทำไมต้องมีการบริหารโครงการ
ธุรกิจในปัจจุบันแข่งขันกันสูง การบริหารโครงการช่วยควบคุมต้นทุน
ต้องการทำงานให้ได้ดี มีประสิทธิภาพ มีแนวทางชัดเจน
ต้นทุนของโครงการมาจาก 3 สิ่ง คือ P (Performance : ประสิทธิภาพในการทำงาน)  T (Time : เวลา)S (Scope/objective : ขอบเขตหรือวัตถุประสงค์ของงาน)                      
องค์ประกอบของการบริหารโครงการ คือ
(1.)  มีความเป็นมาของตัวโครงการ
(2.)  มีวัตถุประสงค์ชัดเจน  (นับได้เชิงปริมาณ)-  เป็นผลผลิต- เป็นบริการ  มีหลายวัตถุประสงค์ได้  แต่เป็นทิศทางเดียวกัน
(3.)  มีความเป็นเอกเทศ   เป็นอิสระเพื่อการวิเคราะห์วางแผน  ควบคุมได้และติดตามผลได้
(4.)  มีรูปแบบการปฏิบัติสอดคล้องกลมกลืนไปในแนวทางเดียวกัน
(5.)  มีกิจกรรม / หรือหลายกิจกรรมต่อเนื่องเชื่อมโยงไปในแนวทางเดียวกัน -  มีหลายกิจกรรม-  กิจกรรมชัดเจน  (6.)  มีทรัพยากร  (7.)  มีจุดเริ่มต้น  -  จุดสิ้นสุด  (8)  เกิดประโยชน์ ชี้วัดได้
(9)  มีผู้รับผิดชอบ  -   หัวหน้าโครงการ
การดำเนินโครงการ แบ่งออกเป็น 4 ระยะ คือ  ระยะเริ่มต้นโครงการ  ระยะการวางแผนโครงการ  ระยะดำเนินโครงการ  และระยะปิดโครงการ    
ชนิดของโครงการ
เป็นงานที่คุ้นเคยและใช้เทคโนโลยีที่คุ้นเคย
เป็นงานที่คุ้นเคยแต่ใช้เทคโนโลยีใหม่
เป็นงานที่ใหม่แต่ใช้เทคโนโลยีที่คุ้นเคย
เป็นงานที่ใหม่และใช้เทคโนโลยีใหม่
 

การบริหารความเปลี่ยนแปลง  (Change Management)
               ปัจจุบันการทำธุรกิจเป็นเกมส์การแข่งขันที่มีความซับซ้อน และทวีความรุนแรงมากขึ้นทุกขณะ อันเนื่องมาจากการเปลี่ยนแปลงของปัจจัยแวดล้อมอย่างต่อเนื่องและรวดเร็วมากขึ้นกว่าในอดีต ด้วยสาเหตุนี้องค์กรต่าง ๆ จึงจำเป็นต้องดำเนินการเพื่อตอบสนองต่อปัจจัยจากสภาพแวดล้อมที่เกิดขึ้นให้ได้อย่างเหมาะสม ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี และวิชาการสมัยใหม่  จึงมีบทบาทอย่างมากในธุรกิจปัจจุบัน  ซึ่งมีผลทำให้เกิดการแข่งขันที่สูง  ผู้บริหารธุรกิจในปัจจุบันจึงมีความจำเป็นที่จะต้องมีการพัฒนา และปรับเปลี่ยนองค์กรของตนเองอยู่เสมอ  เพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจ และสภาพของการแข่งขันทางการตลาดที่อาจจะมีผลกระทบต่อองค์กรในอนาคต
องค์ประกอบของการจัดการความเปลี่ยนแปลง  มีลำดับขั้นตอนดังนี้
1. กระบวนการในการเปลี่ยนแปลง
การละลาย  คือ การละลายพฤติกรรมแบบเดิมๆที่เคยปฏิบัติกันในองค์กร
การเคลื่อนย้าย คือ การนำสิ่งใหม่ๆเข้ามาแทนที่สิ่งเดิมๆในองค์กร
การทำให้คงตัว  คือ การทำให้สิ่งใหม่ที่เข้ามาแทนที่สิ่งเดิมอยู่คงตัว
2. กลยุทธ์ที่ใช้ในการเปลี่ยนแปลง
กลยุทธ์แบบเผด็จการ
กลยุทธ์แบบประชาธิปไตย
กลยุทธ์แบบใช้อำนาจตามสายการบังคับบัญชา  
การจัดการความเปลี่ยนแปลง  จะต้องทราบถึงอิทธิพลของความเปลี่ยนแปลงที่เกิดจากปัจจัยภายนอกและภายในองค์การ  และเตรียมแผนเพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงที่ทันท่วงที  โดยจะอาศัยการวิเคราะห์ร่วมกันของทุกฝ่าย  อาศัยข้อมูลจากแผนกต่าง ๆ   องค์การจะต้องพิจารณาการปรับเปลี่ยนแผนเพื่อรองรับกับการเปลี่ยนแปลง  โดยมีการวางแผนเพื่อกำหนดวัตถุประสงค์ขององค์การ  กำหนดทิศทางการดำเนินงาน การกำหนดแผนกลยุทธ์เพื่อการบรรลุวัตถุประสงค์ในอนาคต  ทั้งนี้โดยการคำนึงถึงจุดอ่อน  จุดแข็ง  โอกาส  และอุปสรรค ที่เป็นอิทธิพลจากสิ่งแวดล้อมทั้งภายในและภายนอกองค์การ
ข้อดี
เพื่อเปลี่ยนจากสิ่งเก่าไปสู่สิ่งใหม่ เพื่อให้บรรลุจุดประสงค์ขององค์การ
เพื่อความยั่งยืนขององค์กร (Sustainability)
เพื่อเพิ่มความสามารถและพัฒนาคนในองค์กร  (Self Reliability)
เพื่อความสามารถในการอยู่รอดขององค์กร (Survivability)
เพื่อเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขัน (Competitive Advantage)
ข้อเสีย
กระทบต่อคนที่ทำงานในองค์กร
กระทบต่อกระบวนการทำงานภายในองค์กร
กระทบต่อวัฒนธรรมองค์กร
กระทบต่อโครงสร้างองค์กร

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น